ช่วงนี้ถ้ามีคนเข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นนางสาวไทยก็คงไม่น่าแปลกใจนักกับการปฏิบัติหน้าที่เยี่ยมเยียนเพื่อน
กลุ่มชมรมคาทอลิกตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่างกันตรงที่หากเป็นนางสาวไทย เค้าคงปฏิบัติเพราะมันเป็นหน้าที่
แต่สิ่งที่ฉันทำตอนนี้ ฉันทำมันด้วยความรัก
เงือกน้อยลอยไปลอยมา ~~~ |
การไปเยี่ยม
หรือไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มชมรมตามมหาวิทยาลัยต่างๆ นับเป็นเป้าหมาย
หรือภารกิจหลักของพวกเรา “กรรมการศูนย์ประสานงานนิสิตนักศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย" ในปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่าพวกเราให้ความสำคัญในการดูแลลูกแกะของพระเจ้า
นั่นก็คือการอยู่เคียงข้างเพื่อนๆนักศึกษาคาทอลิกในประเทศไทยนั่นเอง นอกจากจะไปเพื่อร่วมกิจกรรมแล้ว การไปเยี่ยมกลุ่มชมรมแต่ละครั้ง ทำให้เราได้พูดคุย
ได้ปรึกษา หรือให้กำลังใจกันและกันในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อสานต่อภารกิจ
แบกกางเขนที่พระองค์ทรงมอบไว้ให้กับพวกเราอย่างสุดความสามารถ
กำลังหลักของชมรม |
ของขวัญหลังจบงาน |
และในโอกาสล่าสุดกับงานครบรอบ
33 ปี เทิดมารีย์รำลึก ที่ผ่านมา เป็นความประทับใจอีกครั้งหนึ่งในการออกเยี่ยมชมรมเลยก็ว่าได้
งานนี้คืออะไร ? งานนี้คืองานครบรอบ 33 ปี ของชมรมคาทอลิก มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งมีงานเลี้ยงสังสรรค์
รวมรุ่นของบรรดาพี่ๆ ศิษย์เก่า แต่ไม่ใช่เพียงแค่ได้สนุกสนานร่วมกันเท่านั้น
แต่ในช่วงเช้า มีกิจกรรมที่ศิษย์ปัจจุบัน น้องๆ ในชมรม ได้ไปจัดกิจกรรมให้กับน้องๆ
เด็กกำพร้าที่บ้านลอเรนโซ่ โดยได้รับเงินสนับสนุนจากการขายเสื้อชมรม ซึ่งสมาชิกในชมรมเสียสละกำลังกายมาสกรีนเสื้อกันเองเลยทีเดียว
และมีผู้ใหญ่ใจดี อุดหนุน สนับสนุน โครงการนี้พอสมควร
กิจกรรมที่ไปจัดให้กับน้องๆ คือการสอนน้องๆปั้นลูกชุบ เหมือนง่าย...
แต่จริงๆแล้ว กรรมการต้องมีการเตรียมตัว ลองทำ ลองปั้น
และเตรียมอุปกรณ์กันไปเป็นอย่างดี จากการดูความสนใจของน้องๆ
ในการร่วมกิจกรรมแล้ว... คนที่ซิสเตอร์ว่าแสบที่สุด ยังนั่งนิ่ง
ระบายสีถั่วกวนได้อย่างตั้งใจ กิจกรรมนี้จึงถือได้ว่าผ่านฉลุย !
ลงทะเบียนแบ่งกลุ่มให้ดูแลน้องๆ |
ตั้งใจกันมาก ทั้งพี่ ทั้งน้อง |
ซิสเตอร์ผู้ดูแลน้องๆ ที่บ้าน |
ขะมักเขม้ันกันสุดๆ |
นิ้วหนูอยู่ไหน? |
น่ากินมั้ยคะ? |
ตกบ่าย
ก็เตรียมงานสำหรับมิสซาฉลองวันเกิดแม่พระและงาน 33 ปี ราตรีสีฟ้า-ขาว
ถึงฉันจะไม่ได้เป็นสมาชิกชมรม ไม่ได้เป็นศิษย์เก่า
หรือไม่ได้มีความผูกพันธ์กับที่นี่ก่อนหน้านี้มากมายเป็นพิเศษ แต่บรรยากาศในงานนี้
ทำให้รู้สึกอบอุ่น เหมือนบ้าน เหมือนครอบครัว เหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ด้วย
บอกได้สั้นๆ คำเดียวว่า ประทับใจมาก อาจเป็นเพราะเพื่อนๆ น้องๆ ในชมรม ที่ต้อนรับ
และดูแลเราเป็นอย่างดี ทำเอาไม่อยากกลับกรุงเทพกันเลยทีเดียว
กิจการทั้งหลาย ขอถวายเป็นบูชา... |
รวมทีม ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้องจ้า |
เบื้องหลังการถ่ายทำ |
และสุดท้ายกับมิสซาวันอาทิตย์
ที่วัดแม่พระเมืองลูร์ด บางแสน หลังจากเคยตั้งใจไว้ว่า อาทิตย์ไหนว่างๆ
จะแวะมาเข้ามิสซาที่นี่บ้าง อาทิตย์นี้โอกาสดีจึงได้อยู่เนียนเข้ามิสซาที่นี่กับเพื่อนๆ
ในชมรมไปด้วยเลย แถมยังได้เป็นผู้อ่านจำเป็นซะอีกนี่ ตื่นเต้น... แต่ก็ผ่านไปได้อย่างดี
ชุดน่ารักอ้ะ :) |
ขอบคุณเพื่อนชมรมม.บูรพาที่ชวนเราไปร่วมงาน ชวนแค่เป็นมารยาทหรือเปล่าไม่รู้
แต่ปิตุพรไปจริงค่ะ !
ขอบคุณโอกาสดีๆ ที่ทำให้เราได้รู้จักเทิดมารีย์มากขึ้น
ได้เห็นบรรยากาศความเป็นเพื่อน ความเป็นพี่น้องกันในชมรม แล้วรู้สึกดีมากจริงๆ งานนี้ทำให้ได้รู้ว่าชมรมนี้เค้าได้ทำทุกอย่าง
ขอบคุณน้องๆ บ้านลอเรนโซ่ ที่ทำให้พี่ๆ เห็นพระเจ้าที่ประทับอยู่ในชีวิตของพวกหนูทุกคน
และสุดท้ายขอบคุณพระเจ้า
สำหรับช่วงเวลาอันแสนพิเศษนี้ ไปอยู่กับชมรมนี้มาแค่ 2 วัน เผลอคิดว่าตัวเองเป็นเด็กมอบูไปล่ะ
:P
ส่งท้ายกับบทเพลงขอบคุณซึ้งๆ จากน้องๆ บ้านลอเรนโซ่
"รู้หรือเปล่าว่าชีวิตของเธอมีค่า เธอมีความหมายกับฉัน
ทุกวันที่ผ่าน ที่เรารู้จัก ฉันดีใจที่เราได้พบกัน
แม้ใครๆ เกือบมองไม่เห็นความพิเศษ เหมือนในใจฉันได้เห็น
หัวใจของเธอ งดงามยิ่งใหญ่ ฉันได้เห็นคุณค่าในเธอ
**เพราะพระเจ้าสร้างเธอขึ้นมา ให้เธอเป็นพระพรกับฉัน
ฉันเฝ้าขอบพระคุณ พระองค์ทุกวัน ที่ให้ฉันและเธอมาพบกัน
ขออวยพรเพื่อคนที่แสนจะพิเศษและมีความหมายกับฉัน
ฉันทูลพระองค์ทุกวัน อ้อนวอนทุกวัน ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองเธอ"
ทุกวันที่ผ่าน ที่เรารู้จัก ฉันดีใจที่เราได้พบกัน
แม้ใครๆ เกือบมองไม่เห็นความพิเศษ เหมือนในใจฉันได้เห็น
หัวใจของเธอ งดงามยิ่งใหญ่ ฉันได้เห็นคุณค่าในเธอ
**เพราะพระเจ้าสร้างเธอขึ้นมา ให้เธอเป็นพระพรกับฉัน
ฉันเฝ้าขอบพระคุณ พระองค์ทุกวัน ที่ให้ฉันและเธอมาพบกัน
ขออวยพรเพื่อคนที่แสนจะพิเศษและมีความหมายกับฉัน
ฉันทูลพระองค์ทุกวัน อ้อนวอนทุกวัน ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองเธอ"